สวัสดีเพื่อนทุกๆคนน้าา ในบทความนี้เรามาบอกวิธีในการทบทวนและเพิ่มคะแนนในส่วนของ Clozet test และ Error identification ให้ได้คะแนนเยอะๆกันน้าา >w< โดยเราสรุปในส่วนที่ต้องรู้มาไว้ให้แล้ววว อาจจะในคำแบบห้วนๆเชิงวิชาการเพื่อนหลายคนอาจจะเบื่อไรงี้ สู้ๆนะโค้งสุดท้ายล้าวว อ๋อออ ลืมบอกหากใครกำลังหาวิธีเพิ่มคะแนนในส่วนของ Reading นั้นจะอยู่อีกบทความนะคะ : ) ขอให้ได้คะแนน O-net กันเยอะๆเลยนะ สู้ๆจ้าา มาเริ่มกันเลยยย
เทคนิคในการทำข้อสอบ Cloze Test
1. อ่านประโยคแรกแล้ววิเคราะห์ตีความให้แตกก่อน
2.
พบช่องว่างอย่าเพิ่งเติม ให้อ่านประโยคต่อไป 1-2 ประโยคก่อนแล้วจึงค่อยเติม
3.
พยายามฝึกหาตัวชี้แนะทางบริบท
4.
ตอบไม่ได้ให้ข้ามไปก่อน จำเสมอ แต่ละประโยคแต่ละย่อหน้ามีความสัมพันธ์กัน
นอกจากนี้แล้วในการทำข้อสอบ
Cloze Test สามารถนำเทคนิคของการทำข้อสอบ
Reading มาใช้ร่วมกันได้อีกด้วยโดยการเพิ่มหลักการต่อไปนี้
1. การหา Main
Idea เพื่อเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับ Passage นั้นมากขึ้นไปอีก
2. Reference หรือ
การอ้างอิง
เพื่อทำให้เราทราบว่าเราควรเลือกคำใดมาใช้หากต้องมีการอ้างอิงถึงคำในประโยค
3. Inference หรือ
การสรุป เพื่อทำให้เราสามารถคาดเดาเนื้อเรื่องได้ว่า Passage นี้ต้องการสื่ออะไรให้เราทราบเพื่อง่ายต่อการเลือกคำมาใช้
4. Detail หรือ
รายละเอียด
เราต้องรู้ว่าในเนื้อเรื่องนั้นๆความมีอะไรบ้างที่ควรมาเป็นรายละเอียดให้เรื่องนั้นๆมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
5. Vocabulary in context หรือ หลัก Context clue เป็นการคาดเดาคำศัพท์ในบริบทต่างๆเพื่อที่จะได้ไม่ต้องแปลคำศัพท์ทุกตัวใน
Passage แต่อย่างไรก็ตามเราเองก็ต้องมีความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ในระดับหนึ่ง
เทคนิคการทำข้อสอบ
Error Identification
1.ดูความผิดพลาดของกริยา
- Subject – Verb Agreement
- Tense
- Finite/Non-finite verb
- Voice ผิดรูป เช่น ใช้
V.2 แทน V.3
2. ความผิดพลาดเรื่องรูปคำ
(Word Form)
- การใช้ Part of speech à ใช้ Adjective แทน Adverb / ใช้ Noun แทน Verb
-Note-
àให้ดูตำแหน่ง/หน้าที่ของคำในประโยค
àให้ดูส่วนท้ายของคำ (Suffix)
3. ความผิดพลาดในการเลือกใช้คำ
(Word Choice)
-
มักเป็นการใช้คำๆหนึ่งแทนที่จะใช้คำอีกคำหนึ่งซึ่งถูกไวยากรณ์ คล้ายๆกับเรื่องของ Word Form
4. ความผิดพลาดในเรื่องของ
Parallelism
-การใช้คำผิดชนิด/โครงสร้าง
จากสมาชิกตัวอื่นในกลุ่มของมัน
-Note-
à ให้สังเกตคำว่า “and”
หรือเครื่องหมาย “,” แล้วเปรียบเทียบดูว่าคำที่ใช้นั้นอยู่ในกลุ่มเดียวกันหรือไม่
5. ความผิดพลาดในเรื่องของ
Conjunction
- ใช้ Correlative
ผิดคู่ à not only…but, both…and เป็นต้น
- ใช้
Conjunction ผิด à ใช้ who ในส่วนที่ต้องใช้ which,
ใช้ and ในส่วนที่ขัดแย้งกันแทน but เป็นต้น
- ใช้
Preposition ผิด à ใช้ during ในส่วนที่ต้องใช้
when, ใช้ because of แทน because
เป็นต้น
6. ความผิดพลาดเรื่องพจน์
(Number)
- ใช้นามรูปเอกพจน์หลังคำต่อไปนี้ à a couple (of), (a) few, a number of,
both, many, several, each of, one of, all (กับนามนับได้),
some (กับนามนับไม่ได้), these, those, etc. (หลังคำที่กล่าวมาต้องใช้รูปพหูพจน์ จึงจะถูก)
- ใช้นามพหูพจน์หลังคำต่อไปนี้ à a, an, amount of, (a) little, a
single, each, every, much, one, this, that, etc. (หลังคำที่กล่าวมาต้องใช้รูปเอกพจน์จึงจะถูกต้อง)
- นามนับไม่ได้/นามที่มีแต่รูปเอกพจน์/นามที่มีรูปพหูพจน์พิเศษ
แต่นำ s มาเติมเพื่อแสดงความเป็นพหูพจน์ à informations, furniture, golds,
deers, teeths, etc. (คำดังกล่าวต้องไม่เติม s)
-ใช้รูปพหูพจน์ของนามประสม (Compound Noun) แบบผิดๆ
à detectives stories, toys stores,
car races, three two- months courses, etc. (คำนามตัวแรกทำหน้าที่
adjective ดังนั้นต้องใช้รูปเอกพจน์กับนามตัวแรกเท่านั้น ส่วนตัวหลังจะเป็นรูปพหูพจน์)
-ใช้คำบอกจำนวนที่ควรเป็นพหูพจน์ในรูปเอกพจน์
à
hundred of, thousand of, million
of (คำบอกจำนวนที่ตามด้วย
of จะเป็นคำนามพหูพจน์เสมอ)
7. ความผิดพลาดในการใช้
Pronoun
-
Noun กับ Pronoun ไม่สอดคล้องกัน
-
ใช้ Pronoun ผิดหน้าที่ àใช้รูปประธานแทนรูปกรรม
-
ใช้ Pronoun โดยไม่จำเป็น
àมีประธานอยู่แล้วยังใช้ pronoun เป็นประธานซ้ำซ้อนอีก
8. ความผิดพลาดในเรื่องของ
Comparison
-
ใช้รูปเปรียบเทียบ Comparative แทน Superlative
- ใช้รูปเปรียบเทียบที่ผิดกฎ
9. ความผิดพลาดในเรื่องของ
Article
-
ใช้ Article “a” คำที่ขึ้นต้นด้วยเสียงสระ
- ใช้ Article “an” คำที่ขึ้นต้นด้วยเสียงพยัญชนะ
-
ใช้ Article ผิดชนิด à ใช้ Indefinite (a, an) แทน Definite(the)
-
ใช้ Article ในบริบทที่ไม่ควรใช้
หรือในที่ที่ควรใช้แต่ไม่ใช้
10. ความผิดพลาดในเรื่องของกริยาไม่แท้
(verbal / non-finite verb)
-
ใช้ Infinite แทน gerund
-
ใช้ Present Participle (V.-ing) แทน Past
Participle (V.3)
- ใช้ verbal แบบผิดๆ à to walking, to introducing, etc.
-
ใช้ Infinite หรือ Gerund หลังคำกริยา (can, may, must, will, etc.)
-Note-
à Verbal ที่ตามหลัง preposition ต้องเป็น gerund (V.-ing) เช่น without smiling
à กริยาต้องการกรรม (transitive verb) มีรูป participle ให้เลือก 2 รูป จะใช้รูป present participle (V.-ing) หรือ past participle (V.3) ให้ดูคำที่ตามมา
à ถ้าตามด้วย by หรือ prepositional phrase จะใช้ v.3 เช่น the bridge built by …….. established in 1950,
etc.
à ถ้าตามด้วย noun จะใช้ V.-ing เช่น building the house
11. ความผิดพลาดในการใช้
Preposition
- ใส่ Preposition ในที่ที่ไม่ควรใส่ หรือไม่ใส่ในที่ที่ควรใส่
- ใช้ Preposition แบบผิดตัว
12. ความผิดพลาดของไวยากรณ์ในเรื่องของ
Word Order
-
มีคำตั้งแต่ 2 คำขึ้นไปเรียงลำดับแบบสลับที่กันอยู่